นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทย ควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

Share on facebook
Share on twitter

Highlight

เราอยู่เพื่อวันนี้กับพรุ่งนี้ เมื่อวานเป็นประวัติศาสตร์ที่ควรจะเข้าใจ เพื่อเป็นบทเรียน จะได้ไม่พลาด คนที่จะเป็นนายกคนต่อไป ต้องมีหัวใจประชาธิปไตย ต้องรักประชาชน ต้องมองไกลไปข้างหน้า รู้เท่าทันโลก โลกนี่มีทุกมิติ ก็ต้องรู้เท่าทัน

Transcript

หนึ่ง หัวใจเป็นประชาธิปไตย ถ้าหัวใจเป็นประชาธิปไตยมันจะเข้าใจประชาชน มันไม่ได้มองประชาชนเป็นพลทหาร สองเมื่อหัวใจเป็นประชาธิปไตย มันอัตโนมัติ ใจมันจะรักประชาชน แล้วนอกจากนั้นเนี่ย จะต้องตามโลกให้ทัน ต้องให้รู้ว่าโลกไปถึงไหน แล้วเราควรจะมีจุดยืนยังไง เรามีความเข้มแข็งของเรายังไง เรามีจุดอ่อนของเรายังไง เราจะปรับตัวของเรายังไง เพราะว่าการเป็นผู้นำเนี่ยต้องเป็นเจ้าภาพแห่งการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ทางที่ดีขึ้น การเป็นผู้นำ ไม่เป็นเจ้าภาพในการเปลี่ยนแปลงแล้วใครจะเปลี่ยนแปลงล่ะ แต่เปลี่ยนแปลงเนี่ย หมายถึงเข้าเกียร์เดินหน้า ไม่ใช่เข้าเกียร์ถอยหลัง เข้าเกียร์เดินหน้าแล้วถ้าเร่งเครื่องได้ต้องเร่ง สามต้องรู้จักกระจายอำนาจให้คนช่วยกันทำ เราทำคนเดียวไม่ทันหรอก แต่เราเป็นเจ้าภาพที่จะรู้ว่าอะไรไปถึงไหนแล้ว สิ่งไหนมีคนทำแล้ว สิ่งไหนไม่มีคนทำ เพราะมันต้องทำต้องขับเคลื่อนประเทศไปพร้อมๆ กัน โลกทัศน์ต้องกว้างไกล ไม่ใช่มองอะไรย้อนหลังไปตลอด ไม่หลงอดีต ในภาษาอังกฤษเรียกว่าเป็น Prisoner of history หลงอดีตไม่ได้ ต้องมองไปข้างหน้า เราไม่ได้อยู่เพื่อเมื่อวานนะ เราอยู่เพื่อวันนี้กับพรุ่งนี้ เมื่อวานเป็นประวัติศาสตร์ที่ควรจะเข้าใจ เพื่อเป็นบทเรียน จะได้ไม่พลาดอีกแค่นั้นเอง ฉะนั้นคนที่จะเป็นนายกคนต่อไป ต้องหัวใจประชาธิปไตย ต้องรักประชาชน ต้องมองไกลไปข้างหน้า รู้เท่าทันโลก แล้วรู้เท่าทัน โลกนี่มีทุกมิติ ก็ต้องรู้เท่าทัน

 

ประมาณ GEN X เป็น GEN ที่กำลังเป็นวัยทำงาน GEN X วัยที่ประสบการณ์พอแต่ว่า GEN X ก็จะมีปัญหาเรื่องความเข้าใจเรื่องของเทคโนโลยี เรื่องของโลกยุคใหม่ เรื่องของ Financial architecture ใหม่ๆ ก็จะมีปัญหาตรงนี้อยู่บ้าง แต่ต้องเรียนรู้ ยังเรียนรู้ไหว แต่ Baby boomer เนี่ยมันต้องขยันเรียนจริงๆ ต้องตามทุกเรื่องจริงๆ มันถึงจะเอาอยู่ เพราะว่าจริงๆแล้วเราเกิดมาในยุคที่มันอนาล็อกมาก โทรศัพท์ยังหมุน อยู่เลย แล้ววันนี้มันสั่งเรียบร้อยแล้ว สั่ง Siri Siri ปริ้นให้หมดเรียบร้อย

 

ต้องเข้าใจอย่างนี้ Mentality ของความคิดของคนที่กินเงินเดือนเนี่ย พวก Salaryman พวกนี้จะไม่คิดเลยว่าเงินขาดมือคืออะไร เพราะสิ้นเดือนก็มีเงินเดือนออกแล้วพวกนี้จะไม่เข้าใจว่าคนหาเช้ากินค่ำคืออะไร แต่คนที่มันต้องดิ้นรนทำมาหากินมาก่อนเนี่ย จะเข้าใจว่าคนมันต่อสู้ชีวิตอย่างไง ต้องทำมาหากินยังไง ต้องเปิดโอกาสให้เขาอย่างไร เพราะว่ารัฐบาลมีหน้าที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทำมาหากินได้อย่างสุจริต อย่างเสรี แล้วก็ให้เขาเข้าถึงแหล่งความรู้ แหล่งทุน แหล่งเทคโนโลยี พวกเนี้ยมันเป็นสิ่งที่เป็นหน้าที่ของผู้นำโดยตรง เพราะฉะนั้นเอาเศษฐกิจมาก่อนเพื่อนเลย แล้ววันนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลัง Pandemic อันดับสองก็คือเรื่องของสาธารณะสุข เรื่องของสุขภาพอนามัย อันดับสามก็คือ ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบสามหรอก มันเป็นสิ่งที่ เป็นฝาแฝดกับเรื่องของเศรษฐกิจ ถ้าคนจะทำเรื่องเศรษฐกิจไม่มีความเข้าใจ ไม่ยอมมีหัวใจประชาธิปไตย มันก็เป็นเศษฐกิจอะไรก็ไม่รู้