การนำ Blockchain และ Digital Currency เข้ามาประยุกต์ใช้ในระบบราชการจะแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นได้หรือไม่

Share on facebook
Share on twitter

Highlight

Blockchain และ Digital Currency สามารถนำมาแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นในระบบราชการได้เพราะถ้ารัฐมี Digital Currency ก็จะมี Big Data ขนาดใหญ่ ที่จะเห็นการเงินของข้าราชการ ว่าใช้ไปกับอะไร หรือมีเงินส่วนไหนที่ไม่ชอบมาพากลเข้ามา สามารถตรวจสอบได้ สิ่งสำคัญคือต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของ Cyber Security ด้วย

Transcript

ได้แน่นอนเพราะว่าการมีดิจิตอล เคอเรนซี่ของรัฐ หรือดิจิตอลบาท บัญชีของทุกคนจะไปรวมกันอยู่ที่แบงค์ชาติ แบงค์​ชาติอาจจะมีเกตเวย์ มีดิจิตอลแบงค์ สักสี่ห้าแบงค์ เป็นเกตเวย์ผ่านไป สุดท้ายก็จะไปรวมกันอยู่ที่แบงค์ชาติ แล้วอีกหน่อยการใช้ธนบัตรก็จะไม่มี ไปไหนก็แค่ยกมือถือสแกนคิวอาร์โค้ด จะซื้อของก็ตรงนี้ จะจ่ายเงินก็ตรงนี้ เพราะว่าทุกคนมีกระเป๋าเงินที่เรียกว่าวอลเล็ท อยู่ในมือถือ ไม่ต้องควักเงินสด รัฐจะเห็นTransaction ว่าคนแต่ละคนใช้เงินไปกับค่าอะไรบ้าง ซึ่งอันนี้รัฐบาลสามารถเอามาทำ Big Data เป็นข้อมูลที่จะเอามาดูว่าพฤติกรรมของคนไทย ใช้เงินอย่างไร ใช้ประเภทไหนมากน้อยขนาดไหน เพื่อนำไปสู่การปรับนโยบาย เพื่อให้ทิศทางของเศรษฐกิจเป็นประโยชน์มากขึ้น เมื่อเงินสดไม่มี มันเห็นแต่ตัวเลข เรื่องคอร์รัปชั่น อยู่ๆ เงินพอกพูนมาได้อย่างไร อย่างนี้เห็นชัด มันต้องมีเหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกนักร้องหาลำไพ่ทั้งหลาย จะต้องโชว์เงินอยู่ในนี้ ผู้ใหญ่ใจดีจะซื้อรถให้อย่างไร ทุกอย่างอยู่ในนี้หมด ปัญหาอีกอย่างคือ Security ของ Blockchain และ Blockchain ที่ดีๆ ต้องมี Security ที่ดี มีความมั่นคง ปลอดภัยสูง แต่ว่าระหว่างที่วิ่งเข้าอินเตอร์เน็ต บางทีก็ถูก Intersect อย่างกรณีของ Exchange ที่จะเข้า blockchain โดนแฮก อย่างที่เมืองนอกเหรียญหาย มันจะเกิดกรณีอย่างนี้ วันนี้เริ่มใช้กันแล้วดิจิตอล เคอเรนซี่ ของเซนทรัลแบงค์ ธนาคารชาติ ที่แอฟริกา ไนจีเรีย ใช้ก่อน จีนใช้ไปแล้วทั้งหมด 140 ล้านแอคเคาท์ในยุโรปกำลังวางมาตรฐานกันอยู่ และอังกฤษเตรียมใช้ ของประเทศไทยปีหน้ากำลังจะทดลอง ผมดีใจนะ ที่แบงค์ชาติได้เตรียมตัวขนาดนี้ แต่ผมห่วงนิดเดียวเรื่องของ Cyber Security ขอให้ทำให้ดี เป็นห่วงแค่นั้น