นโยบายที่เป็นที่นิยมของประชาชนนับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย สู่พรรคเพื่อไทย   ภายใต้สโลแกนทักษิณคิด  เพื่อไทยทำ   จนนำมาสู่ชัยชนะของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  น้องสาวคนสุดท้องในตระกูลชินวัตร    มาจากการให้คำปรึกษาจากแนวคิดที่ ดร.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี   เคยทำแล้วสำเร็จมาก่อน   และเขาได้เปิดใจสัมภาษณ์พิเศษในรายการ Intelligence  ทางสถานีโทรทัศน์ วอยซ์ ทีวี  เมื่อปี 2554  บันทึกเทปที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่เขาไปเยือนตามคำเชิญ   ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง 

ทักษิณคิด  เพื่อไทยทำ  เน้นสร้างโอกาสให้กับคนไทย  นโยบายที่สร้างความฮือฮาและประสบความสำเร็จอย่างมากคือ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จากวันละ 220 บาท เป็นวันละ 300  บาท    ในแง่ของเจ้าของธุรกิจ  มองว่านโยบายนี้อาจจะส่งผลเสีย   กำไรที่เคยได้จะลดลงหรือไม่  ต้นทุนจะสูงขึ้น  จนอาจทำให้ต้องขึ้นราคาสินค้าและประชาชนจะได้รับผลกระทบหรือเปล่า   แต่ ดร.ทักษิณ กลับตั้งคำถามกลับไปยังเจ้าของธุรกิจว่า 

‘ที่ผ่านมา  ให้อย่างนี้แล้วประชาชนอยู่ไม่ได้  ทำไมเราไม่ห่วงคนส่วนใหญ่   เราไปห่วงธุรกิจที่ไม่ปรับตัวทำไม’ 

ด้วยหลักการ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้  ขยายโอกาส   หลักสามข้อที่สานต่อมาจากพรรคไทยรักไทยยังใช้ได้เสมอ  ทุกอย่างมาจาก Pain point ของคนไทยที่ยังติดกับดักปัญหาเดิมไม่เคยหลุดพ้น  การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคือจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้

แนวคิดของระบบการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจจากระดับล่างสู่ด้านบน  เมื่อมีรากที่แข็งแรงแล้ว   จะหมุนเวียนเศรษฐกิจระดับบนได้โดยธรรมชาติอย่างเกื้อกูลกัน  

‘สมมุติว่าค่าแรงเป็น  25% ของราคาขายสินค้า   ถ้าเราเพิ่มเป็น 30% ของ 25%   นั่นคือเท่ากับต้นทุนค่าแรงเพิ่มราคาสินค้าไป 7.5%   ถามว่ารัฐบาลลดภาษีไหม  ลดไป 7%  รัฐบาลก็ช่วย บริษัทก็ช่วย แต่ใครได้ประโยชน์    รัฐบาลได้จากกำลังซื้อ   ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน   ได้ Vat เพิ่ม   บริษัทได้ประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น  เพราะมีขวัญกำลังใจ  เมื่อมีกำลังซื้อ  บริษัทนี้ไปซื้อของ ๆ บริษัทนี้  ยอดขายก็ดีขึ้นด้วยกัน   มันเป็นระบบที่เชื่อมโยงกันหมด  อย่าไปมองมิติเดียว  ถ้ามองว่าเพิ่มเท่านี้  ผมโดนอย่างนี้   จากกำไรผมเป็นขาดทุน  ถ้าคิดอย่างนั้นแสดงว่า  กำลังมีปัญหาทางความคิดในโลกยุคใหม่’….. ดร.ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี    

‘บางครั้งไม่ต้องทำอะไรกันมาก   เมื่อให้เงิน  ต้องให้ใจ  รับรองเลยคนจะทำงานมากขึ้น   คนจะขยันมากขึ้น    ที่ผ่านมาลูกจ้างนั่งดูคนส่งออกรวยเอารวยเอา นั่งตาปริบ ๆ  อยู่บ้านยังไม่พอกิน    แต่พอประกาศผลกำไรปีนี้ 5,000 ล้าน  10,000 ล้าน นั่งตาปริบ ๆ ที่บ้านโอ้โห  ไข่เคยซื้อกินวันละ 3 ฟอง   ต้องมาซื้อวันละ 2 ฟอง   สรุปแล้วผมคิดว่า……

ถ้าอยากได้ใจคนต้องมีหัวใจให้คน

ถ้าเสียสละเป็น  เราก็จะได้รับเป็น  

แต่ถ้าเสียสละไม่เป็น ไม่มีทางได้  

คนไม่เคยให้  ถ้าจะได้  จะได้แบบไม่มีศักดิ์ศรี  ได้แบบไม่มีความรักกลับคืนมา 

ถ้าคนเรารู้จักให้  ก็จะได้อย่างมีศักดิ์ศรี   และมีความรักกลับคืนมา

……. ดร.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี