Plan of Action ทักษิณดันไทยร่วมมือการค้า 5 มหาอำนาจโลก - Thaksin Official


ดร.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีไทยไม่กี่คนที่มุ่งมั่นยกระดับสถานะประเทศโดยการเจรจาสร้างความร่วมมือกับมหาอำนาจชาติต่างๆ เพราะถึงแม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศเล็กๆ ในเวทีโลก แต่ ดร.ทักษิณก็มองเห็นว่าเราเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคเอเชีย

ดร.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีของไทยที่ได้เข้าพบผู้นำสำคัญในประเทศอื่นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันผู้นำประเทศอื่นก็เดินทางมาไทยอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน และหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญที่ ดร.ทักษิณทำไว้ก็คือความสำเร็จในการเจรจาขอความร่วมมือทางการค้ากับ 5 ประเทศมหาอำนาจโลก

ดร.ทักษิณ พัฒนาแนวคิดนี้จากการเยือนประเทศฝรั่งเศสใน พ.ศ. 2546 และได้พบกับประธานาธิบดี ฌาร์ค ชีรัค ซึ่งเสนอว่าไทยและฝรั่งเศสน่าจะทำ Plan of  action หรือ “ความร่วมมือทางการค้า” ด้วยกัน ดร.ทักษิณพิจารณาแล้วว่าประเทศไทยได้ประโยชน์จึงได้ตอบตกลง

ผลจากการเจรจาครั้งนั้นทำให้มูลค่าการค้าขาย การท่องเที่ยว และการลงทุนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมีการตั้งเป้าหมายว่าในปี 2551 การค้าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และยังมองเห็นความร่วมมือที่สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต เช่น ด้านแฟชั่น ด้านวิชาการ ฯลฯ

ดร.ทักษิณ เล่าเรื่องนี้ไว้ว่า

“ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรก และเป็นประเทศที่แนะนำให้เกิด  Plan of action คือแผนการปฏิบัติการร่วมไทย-ฝรั่งเศส หลังจากนั้นเราใช้แนวความคิดนี้ไปทำ Plan of action กับประเทศเศรษฐกิจหลักๆ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นสมาชิกถาวรของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทั้ง 5 ประเทศ”

“เรามี plan of action กับสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และรัสเซีย ตอนแรกเรามี plan of action แค่ 4 ประเทศ พอรัสเซียตกลงก็เป็น 5 ประเทศ แสดงว่าประเทศไทยเป็นประเทศเพียงไม่กี่ประเทศในโลกนี้ ที่สามารถมีแผนปฏิบัติงานหรือทำงานร่วมกันกับประเทศมหาอำนาจ ทั้ง 5 ประเทศได้”

“สิ่งที่ทุกประเทศต้องการคือเราจะทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับการค้า เพิ่มนักท่องเที่ยวอย่างไร เพิ่มการลงทุนอย่างไร เพิ่มความร่วมมือทางความมั่นคงอย่างไร เพิ่มความร่วมมือทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างไรมหาอำนาจทั้งหมดนี้ตกลงเป็นภาคีในการจัดทำแผนทำงานร่วมกันอย่างนั้นกับเรา”

นโยบาย Plan of Action ทำให้ดร.ทักษิณประสบความสำเร็จในการเจรจากับประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียจนเกิด“ความร่วมมือทางการท่องเที่ยว” ด้านการทำวีซ่าฟรีร่วมกัน คนรัสเซียมาเที่ยวประเทศไทย 30 วันไม่ต้องขอวีซ่า ส่วนคนไทยไปเที่ยวรัสเซีย 30 วันก็ไม่ต้องขอวีซ่าเช่นกัน

ความสามารถของดร.ทักษิณ ในการสร้างความร่วมมือทางการค้ากับมหาอำนาจทั้ง 5 แสดงให้เห็นว่าดร.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่เจรจาด้านการทูต การค้า และความร่วมมือระหว่างประเทศได้ดี ตรงข้ามกับนายกบางคนที่กล่าวว่า “บริหารประเทศไม่เห็นยาก” แต่กลับเจรจาค้าขายอะไรให้ประเทศแทบไม่สำเร็จเลย

ความสามารถของ ดร.ทักษิณ ทำให้รัฐบาลพรรคไทยรักไทยริเริ่มเจรจาข้อตกลงทางการทูตและการค้ามากมาย  ดร.ทักษิณแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ ขนาดของประเทศไม่ใช่ปัญหา และถ้าได้ผู้นำที่มีความสามารถในการเจรจาต่อรอง ประเทศไทยมีโอกาสทะยานสู่ความเป็นประเทศที่นานาชาติยอมรับได้อย่างสง่างาม