คิดใหม่..ทำใหม่ ถอดบทเรียนความสำเร็จที่ได้จากพ่อ

Share on facebook
Share on twitter

     “ไหมไทยชินวัตร” เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของตระกูลชินวัตร แค่รับช่วงต่อลูกทุกคนก็สามารถสืบทอดธุรกิจได้สบายๆ แต่เลิศ ชินวัตร กลับคิดใหม่โดยเลือกที่จะไปเริ่มต้นธุรกิจร้านขายกาแฟของตัวเอง กล้าที่จะแยกจากกงสีใหญ่ของครอบครัว ในยุคนั้นไฟฟ้ายังไปไม่ทั่วถึง ชาวบ้านทั่วไปยังยึดอาชีพทำไร่ทำนา

     ในท่ามกลางความเป็นชนบทร้านกาแฟของพ่อก็ได้ “คิดใหม่ ทำใหม่” เป็นครั้งแรกของสันกำแพง เมื่อพ่อซื้อตู้เย็นที่ใช้น้ำมันก๊าดมาใช้เป็นเครื่องแรกของสันกำแพง ร้านกาแฟของพ่อเป็นร้านเดียวที่เก็บน้ำแข็งไว้ในตู้เย็น ซึ่งเก็บได้ดีกว่าวิธีเดิมๆ นอกจากนี้ยังได้ใช้ประโยชน์อื่นๆ จากตู้เย็น โดยเอามาแช่ผลไม้จนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ต่อมายังได้ต่อยอดไปสู่การขายหวานเย็นอีกด้วย

     เรื่องคิดใหม่ ทำใหม่ ของพ่อไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ต่อมาไม่นานพ่อก็ได้ซื้อเครื่องปั่นมะพร้าวจากกรุงเทพฯมาตั้งบดมะพร้าวขายเป็นรายแรกของสันกำแพง ขณะที่คนอื่นยังใช้แรงงานเป็นหลัก เครื่องปั่นมะพร้าวของพ่อทำงานได้เร็วกว่า ให้ผลผลิตมากกว่า เสียงวิ้วๆ ของเครื่องปั่นมะพร้าว เป็นความแปลกใหม่และน่าทึ่งมากสำหรับคนละแวกนั้น

     ในเรื่องการทำเกษตรพ่อก็ยังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ขณะที่เกษตรกรอื่นนิยมปลูกข้าว ถั่วลิสง ปลูกชา แต่เกษตรกรมือใหม่ความรู้ ม.8 อย่างเลิศ ชินวัตร ก็คิดแตกต่างจากคนอื่น เมื่อมองเห็นว่าภูมิประเทศและภูมิอากาศของสันกำแพง สามารถปลูกส้มและดอกไม้เมืองหนาวได้ สวนส้มเขียวหวานและสวนดอกไม้เมืองหนาวจึงปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกของสันกำแพง แถมยังสั่งรถแทรกเตอร์เข้าช่วยมางานในไร่ส้มแทนแรงงานวัว ควาย ซึ่งช่วยทุ่นแรงและทำงานได้รวดเร็วยิ่งกว่า

     หลังจากนั้นไม่นาน เป็นช่วงเวลาที่เมืองเชียงใหม่ถูกเปลี่ยนผ่านจากเมืองชนบทเงียบสงบพลิกโฉมกลายเป็นเมืองยุทธศาสตร์ของภาคเหนือจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 ความเจริญทั้งการคมนาคม สาธารณูปโภค การเกษตร และอุตสาหกรรม ได้ไหลบ่ามาสู่เชียงใหม่อย่างรวดเร็ว ผู้คนจากหลากหลายสารทิศได้เดินทางขึ้นล่องมาเชียงใหม่กันอย่างคับคั่ง ธุรกิจใหม่ๆ ผุดขึ้นมากมาย เศรษฐกิจและวิถีชีวิตของคนเชียงใหม่ได้เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปจากเดิมอย่างมาก

     พ่อมองเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างชัดเจน และตัดสินใจทำธุรกิจที่สอดคล้องกับสภาพวิถีชีวิตของคนเชียงใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจด้านความบันเทิง อย่างเช่น โรงหนัง แม้จะไม่เคยทำธุรกิจเช่นนี้มาก่อน แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคใดๆ  ด้วยนิสัยนักสู้ กล้าคิด กล้าลองทำสิ่งใหม่ และพร้อมเรียนรู้อยู่เสมอ โรงหนังศรีวิศาลจึงเกิดขึ้น

     พ่อได้ปฏิวัติรสนิยมการดูหนังของคนเชียงใหม่ได้สำเร็จ จากเดิมโรงหนังอื่นๆ มักจะฉายหนังจีน และ หนังแขก พ่อทดลองเอาหนังฝรั่งและหนังไทยมาฉายเป็นการสวนกระแสเดิมอย่างสิ้นเชิง หนังเรื่องแรกรอบปฐมทัศน์ของโรงหนังศรีวิศาลคือหนังฝรั่งเรื่อง “ป้อมปืนนาวาโรน” เป็นภาพความประทับใจของเด็กชายทักษิณอย่างมากที่เห็นคนดูล้นหลามจนแน่นโรง

     จากโรงหนังโรงแรกที่ประสบความสำเร็จทำให้ฐานะการเงินครอบครัวมั่นคงขึ้นมาก พ่อจึงต่อยอดขยายกิจการไปอีกหลายอย่าง  รวมทั้งได้ขยายกิจการเปิดโรงหนัง “ชินทัศนีย์” ซึ่งเป็นโรงหนังแห่งที่สองอีกด้วย แม้ในเวลาต่อมากิจการหลายอย่างที่ได้ทำมาตลอดชีวิตจะถูกคดโกงโดยผู้ร่วมหุ้นจนกิจการขาดทุนอย่างหนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ใครๆ ก็คดโกงไปไม่ได้ก็คือความคิดและจินตนาการสร้างสรรค์ในแบบฉบับของพ่อ

     รูปแบบการทำธุรกิจอย่างสร้างสรรค์และมีจินตนาการ กล้าคิด กล้าลองสิ่งใหม่ คือมรดกทางความคิดอันล้ำค่าของพ่อที่ถ่ายทอดมาถึงลูก

     “มรดกจากพ่อที่ปรากฏในตัวผมชัดเจนที่สุดนั้นคือแพทเทิร์นการทำธุรกิจ หรือสไตล์กล้าเสี่ยง กล้าลอง ชอบของใหม่ทันสมัยและการทำงานด้วย “จินตนาการ”

     นอกจากเลิศ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อจะเป็นแรงบันดาลใจยิ่งใหญ่ของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว ยังได้ถ่ายทอดแนวคิดและประสบการณ์อันมีค่าให้แก่ลูกที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ไม่รู้จบ โดยเฉพาะเรื่องของการ “คิดใหม่ ทำใหม่” ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญที่ ดร.ทักษิณ ใช้เป็นนโยบายหลักของการก้าวสู่ถนนการเมืองและประสบความสำเร็จอย่างงดงาม หากเราย้อนอดีตจะพบว่าพ่อผู้เป็นต้นแบบของความสำเร็จ เป็นนักริเริ่มที่คิดใหม่ ทำใหม่ หลายอย่างจนกลายเป็นบทเรียนธุรกิจที่มีคุณค่าอย่างมากสำหรับลูก

     จนถึงวันนี้นโยบาย “คิดใหม่ ทำใหม่” ก็ไม่เคยล้าสมัยและสามารถนำมาต่อยอดใช้ได้อยู่เสมอ ที่สำคัญประโยคนี้ได้กลายเป็นแบรนด์เนมสำคัญที่ติดตัวและทำให้ทุกคนคิดถึง ดร.ทักษิณ อยู่เสมอ           

     “แพทเทิร์นนี้นอกจากเป็นที่มาแห่งความสำเร็จด้านธุรกิจของผมแล้ว ยังเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจหลายๆ อย่างทางการเมือง เป็นจุดเริ่มต้นของศรัทธาต่อปรัชญา “คิดใหม่” ที่ต้องอาศัยความกล้าและจินตนาการเป็นรากหลัก”

Share on facebook
Share on twitter